
กลับสู่ความรักดั้งเดิม
Returning to the First Love
“1จงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่า พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวาและทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสว่า 2เรารู้ถึงการกระทำของเจ้า ความเหนื่อยยากตรากตรำของเจ้า และความอดทนของเจ้า เรารู้ว่าเจ้าไม่อาจทนต่อคนชั่ว เจ้าได้ทดสอบบรรดาผู้อ้างตัวเป็นอัครทูตแต่ไม่ได้เป็น เจ้าจับได้ว่าเขาโกหก 3เรารู้ว่าเจ้าได้อดทนบากบั่นและได้ทนความยากเข็ญเพื่อนามของเรา และเจ้าไม่ได้ระย่อท้อแท้
4แต่เรามีข้อติติงเจ้าคือ เจ้าได้ละทิ้งความรักดั้งเดิมของเจ้า 5จงระลึกว่าเจ้าได้ร่วงหล่นลงมามากเพียงใด! จงกลับใจใหม่และทำสิ่งที่เจ้าเคยทำตั้งแต่แรก ถ้าเจ้าไม่กลับใจใหม่เราจะมาหาเจ้าและยกคันประทีปของเจ้าออกจากที่ 6แต่เจ้ายังมีข้อดีอยู่บ้างตรงที่เจ้าชิงชังข้อปฏิบัติของพวกนิโคเลาส์นิยมซึ่งเราก็ชิงชังด้วย 7ใครมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณตรัสแก่คริสตจักรทั้งหลาย ผู้ใดมีชัยชนะเราจะให้เขามีสิทธิ์รับประทานผลจากต้นไม้แห่งชีวิตในอุทยานสวรรค์ของพระเจ้า” (วิวรณ์ 2:1-7)
1. ทรงสนใจ (The care)
1.1 ย้ำว่ารู้ว่าอยู่ที่ไหน (Christ’s revelation of the place)
“จงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่า พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวาและทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสว่า” (วิวรณ์ 2:1)
- ทางการค้า (Commercial Importance): เป็นศูนย์กลางทางการค้า (Trade Center)
- ทางการเมือง (Political Importance): เมืองเสรี (Free City)
- ทางศาสนา (Religious Importance): วิหารของพระแม่ไดอานา (Temple of Diana)
1.2 ย้ำความสัมพันธ์กับผู้รับใช้ (Christ’s relationship with the pastor)
“จงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่า พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวาและทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสว่า” (วิวรณ์ 2:1)
1.3 ย้ำถึงการประทับกับผู้เชื่อ (Christ’s presence with the people)
“จงเขียนถึงทูตสวรรค์แห่งคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่า พระองค์ผู้ทรงถือดาวทั้งเจ็ดไว้ในพระหัตถ์ขวาและทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางคันประทีปทองคำทั้งเจ็ดนั้นตรัสว่า” (วิวรณ์ 2:1)
2. ทรงชม (The commendation)
“2เรารู้ถึงการกระทำของเจ้า ความเหนื่อยยากตรากตรำของเจ้า และความอดทนของเจ้า เรารู้ว่าเจ้าไม่อาจทนต่อคนชั่ว เจ้าได้ทดสอบบรรดาผู้อ้างตัวเป็นอัครทูตแต่ไม่ได้เป็น เจ้าจับได้ว่าเขาโกหก 3เรารู้ว่าเจ้าได้อดทนบากบั่นและได้ทนความยากเข็ญเพื่อนามของเรา และเจ้าไม่ได้ระย่อท้อแท้” (วิวรณ์ 2:2-3)
2.1 การรับใช้ (Service)
“เรารู้ถึงการกระทำของเจ้า ความเหนื่อยยากตรากตรำของเจ้า และความอดทนของเจ้า” (วิวรณ์ 2:2)
มีคนสามกลุ่มในทุกคริสตจักร
1. คนหนีงาน/เลี่ยงงาน (Shirker)
2. คนใจเสาะ (Jerker)
3. คนงาน (Worker)
ก) ทำงานและตรากตรำเพื่อพระคริสต์ (The church worked and labored for Christ)
ข) อดทนเพื่อพระคริสต์ (The church patiently endured for Christ)
“ความอดทนของเจ้า” (วิวรณ์ 2:2)
“เหตุฉะนั้นพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงตั้งมั่นอยู่ อย่าให้สิ่งใดทำให้ท่านหวั่นไหว จงทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะท่านรู้ว่าในองค์พระผู้เป็นเจ้า การงานของท่านจะไม่สูญเปล่า” (1 โครินธ์ 15:58)
“เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงอดทนตราบจนองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จงดูชาวนารอคอยพืชผลล้ำค่าจากแผ่นดิน ดูเถิดว่าเขาอดทนรอคอยฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดูขนาดไหน” (ยากอบ 5:7)
2.2 การแยกแยะความแตกต่าง (Separation)
“เรารู้ว่าเจ้าไม่อาจทนต่อคนชั่ว เจ้าได้ทดสอบบรรดาผู้อ้างตัวเป็นอัครทูตแต่ไม่ได้เป็น เจ้าจับได้ว่าเขาโกหก” (วิวรณ์ 2:2)
“ข้าพระองค์จะไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งชั่วช้าเลวทรามใดๆ ข้าพระองค์เกลียดชังการกระทำของคนปลิ้นปล้อนตลบตะแลง และไม่ข้องเกี่ยวในกิจการเหล่านั้น” (สดุดี 101:3)
“ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าคือการเกลียดชังความชั่ว เราชิงชังความหยิ่งยโส ความจองหอง การประพฤติชั่ว และวาจาตลบตะแลง” (สุภาษิต 8:13)
“เรารู้ว่าเจ้าไม่อาจทนต่อคนชั่ว เจ้าได้ทดสอบบรรดาผู้อ้างตัวเป็นอัครทูตแต่ไม่ได้เป็น เจ้าจับได้ว่าเขาโกหก” (วิวรณ์ 2:2)
“1เพื่อนที่รัก อย่าเชื่อหมดทุกวิญญาณ แต่จงทดสอบดูว่าวิญญาณนั้นๆ มาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะมีผู้พยากรณ์เท็จมากมายเข้ามาในโลก 2นี่คือวิธีที่จะทำให้ท่านรู้ว่าเป็นพระวิญญาณของพระเจ้า คือทุกวิญญาณที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ก็มาจากพระเจ้า 3แต่ทุกวิญญาณที่ไม่ยอมรับพระเยซูก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่เป็นวิญญาณแห่งปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมาและบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว” (1 ยอห์น 4:1-3)
3.3 ความสำเร็จ (Success)
“เรารู้ว่าเจ้าได้อดทนบากบั่นและได้ทนความยากเข็ญเพื่อนามของเรา และเจ้าไม่ได้ระย่อท้อแท้” (วิวรณ์ 2:3)
“คนทั้งปวงจะเกลียดชังท่านเพราะเรา แต่ผู้ที่ยืนหยัดจนถึงที่สุดจะรอด” (มัทธิว 10:22)
“1เหตุฉะนั้นเพราะเรามีพันธกิจนี้โดยพระเมตตาของพระเจ้า เราจึงไม่ท้อใจ 16เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ท้อใจ ถึงแม้กายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่จิตใจภายในของเรากำลังฟื้นขึ้นใหม่ทุกวัน” (2 โครินธ์ 4:1, 16)
3. ทรงติติง (The Charge)
“แต่เรามีข้อติติงเจ้าคือ เจ้าได้ละทิ้งความรักดั้งเดิมของเจ้า” (วิวรณ์ 2:4)
3.1 หมดรักต่อพระคริสต์ (The church and its believers had lost their feelings for Christ.)
“เนื่องจากความชั่วร้ายเพิ่มทวีขึ้น ความรักของคนส่วนใหญ่จะเย็นชาลง ” (มัทธิว 24:12)
“ขอพระคุณดำรงอยู่กับคนทั้งปวงที่รักองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราด้วยความรักอันไม่เสื่อมสลาย” (เอเฟซัส 6:24)
“เราอยู่ที่นี่แล้ว! เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปรับประทานอาหารกับผู้นั้นและเขาจะรับประทานร่วมกับเรา” (วิวรณ์ 3:20)
3.2 หมดรักต่อผู้อื่น (The church had lost its love for people)
“34เราให้บัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายคือ จงรักซึ่งกันและกัน พวกท่านต้องรักซึ่งกันและกันเหมือนที่เราได้รักพวกท่าน 35ถ้าพวกท่านรักซึ่งกันและกันคนทั้งปวงจะรู้ว่าพวกท่านเป็นสาวกของเรา” (ยอห์น 13:34-35)
“คำบัญชาของเราก็คือ จงรักซึ่งกันและกันเหมือนที่เราได้รักพวกท่าน” (ยอห์น 15:12)
4.ทรงบัญชา (The command)
“จงระลึกว่าเจ้าได้ร่วงหล่นลงมามากเพียงใด! จงกลับใจใหม่และทำสิ่งที่เจ้าเคยทำตั้งแต่แรก ถ้าเจ้าไม่กลับใจใหม่เราจะมาหาเจ้าและยกคันประทีปของเจ้าออกจากที่” (วิวรณ์ 2:5)
สามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องในการกลับมา
(Three steps are involved in returning)
4.1 จงระลึก (Remember)
“จงระลึกว่าเจ้าได้ร่วงหล่นลงมามากเพียงใด”
4.2 จงกลับใจ (Repent)
“จงกลับใจใหม่”
“จงกลับใจใหม่จากการชั่วร้ายนี้และอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์อาจจะอภัยให้ท่านที่คิดเช่นนี้อยู่ในใจ” (กิจการ 8:22)
4.3 จงทำสิ่งที่เคยทำอีกครั้ง (Redo)
“ทำสิ่งที่เจ้าเคยทำตั้งแต่แรก”
5.ทรงเตือน (The warning)
“ถ้าเจ้าไม่กลับใจใหม่เราจะมาหาเจ้าและยกคันประทีปของเจ้าออกจากที่ ” (วิวรณ์ 2:5)
พระคริสต์ทรงเตือนคริสตจักรที่สูญเสียความรักดั้งเดิมต่อพระองค์
คำเตือนสองด้าน
(The warning is twofold)
5.1 จะทรงยกคริสตจักรออกจากที่
5.2 คำสอนดีอย่างเดียวไม่เพียงพอ (Doctrinal purity is not enough)
“แต่เจ้ายังมีข้อดีอยู่บ้างตรงที่เจ้าชิงชังข้อปฏิบัติของพวกนิโคเลาส์นิยมซึ่งเราก็ชิงชังด้วย” (วิวรณ์ 2:6)
6. ทรงสัญญา (The Promise)
“ใครมีหูก็จงฟังสิ่งที่พระวิญญาณตรัสแก่คริสตจักรทั้งหลาย ผู้ใดมีชัยชนะเราจะให้เขามีสิทธิ์รับประทานผลจากต้นไม้แห่งชีวิตในอุทยานสวรรค์ของพระเจ้า” (วิวรณ์ 2:7)
6.1 ผู้เอาชนะจะได้รับอนุญาตให้กินต้นไม้แห่งชีวิต
6.2 ผู้เอาชนะจะกลายเป็นพลเมืองแห่งสวรรค์ของพระเจ้า