
พระพรท่ามกลางพายุ
The Blessings in the Storm
ในชีวิตของพี่น้องเจอพายุบ้างไหม ?
เมื่อพระองค์เสด็จลงเรือ พวกสาวกของพระองค์ก็ตามพระองค์ไปด้วย และนี่แน่ะ เกิดพายุแรงกล้าในทะเล จนเรือถูกคลื่นซัดจนน้ำเกือบเต็มเรือ แต่พระองค์ทรงบรรทมอยู่ พวกสาวกจึงเข้ามาปลุกพระองค์ว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ช่วยพวกข้าพระองค์ด้วย พวกข้าพระองค์กำลังจะตายอยู่แล้ว’ พระองค์ตรัสว่า ‘พวกเจ้าคนมีความเชื่อน้อย ทำไมจึงกลัวเล่า?’ แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้นตรัสสั่งลมและทะเล พายุก็สงบเงียบสนิท” (มัทธิว 8:23-27)
“Then he got into the boat and his disciples followed him. Suddenly a furious storm came up on the lake, so that the waves swept over the boat. But Jesus was sleeping. The disciples went and woke him, saying, “Lord, save us! We’re going to drown!” He replied, “You of little faith, why are you so afraid?” Then he got up and rebuked the winds and the waves, and it was completely calm. The men were amazed and asked, “What kind of man is this? Even the winds and the waves obey him!””
(Matthew 8:23-27)
1. พายุที่มาโดย
(The Unexpected Storm)
2. พายุแห่ง
(The Storm of Fear and Anxiety)
3. พายุแห่งความ
(The Storm of Uncertainty and Financial Burden)
4. พายุแห่งการทดสอบ
(The Storm of Faith Testing)
🔥 เมื่อเผชิญพายุ คุณจะ
ผมจะตอบ 3 คำถามในวันนี้
ทำไมพระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดพายุในชีวิตเรา ?
อะไรคือพระพรที่ซ่อนอยู่ในพายุ ?
เราควรตอบสนองอย่างไรเมื่อพระเจ้าช่วยเรา ?
ทำไมพระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดพายุในชีวิตเรา ?
(Why Does God Allow Storms in Our Lives?)
1. พายุเปิดเผยความจริงว่าเราไม่ได้
(Storms Reveal That We Are Not in Control)
📖 มัทธิว 8:24
เกิดพายุแรงกล้าในทะเล จนเรือถูกคลื่นซัดจนน้ำเกือบเต็มเรือ”
“Suddenly a furious storm came up on the lake, so that the waves swept over the boat.”
(Matthew 8:24)
📖 สุภาษิต 3:5-6 “5จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง 6จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น”
“Trust in the Lord with all your heart and lean not on your own understanding; in all your ways submit to him, and he will make your paths straight.”
(Proverbs 3:5-6)
2. พายุเป็นโอกาสให้เรา
(Storms Are Opportunities to Call on God)
📖 มัทธิว 8:25 “พวกสาวกจึงเข้ามาปลุกพระองค์ว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ช่วยพวกข้าพระองค์ด้วย!’”
“The disciples went and woke him, saying, “Lord, save us! We’re going to drown!””
(Matthew 8:25)
ทำไมพระเยซูจึงไม่ตื่นขึ้นมาช่วยก่อนหน้านี้ ?
บางครั้งพระองค์ทรงรอให้เราตระหนักว่าเราต้องพึ่งพาพระองค์จริง ๆ
📖 สดุดี 50:15 “จงร้องทูลเราท่ามกลางวันทุกข์ยาก และเราจะช่วยเจ้าให้รอด และเจ้าจะถวายพระเกียรติแด่เรา”
“and call on me in the day of trouble; I will deliver you, and you will honor me.””
(Psalms 50:15)
จำไว้ว่า“การอธิษฐานไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย แต่มันควรเป็นสิ่งแรกที่เราทำเสมอ”
– ชาร์ลส์ สเปอร์เจียน
(Charles Spurgeon, “Prayer is not a last resort. It should be our first response.”)
ดังนั้นขอย้ำว่า
อย่ารอจนวิกฤติถึงจะอธิษฐาน แต่จงอธิษฐานเสมอก่อนเกิดวิกฤติ
3. พระเยซูอยู่ใน
(Jesus Is Always in the Boat with Us)
📖 มัทธิว 8:24 “แต่พระองค์ทรงบรรทมอยู่”
But Jesus was sleeping.”
(Matthew 8:24)
ทำไมพระเยซูถึงนอนหลับ ?
พระองค์ไม่ตื่นตระหนกต่อสิ่งที่เราหวาดกลัว เพราะพระองค์ทรงควบคุมทุกสิ่งอยู่แล้ว แม้ทรงเงียบ แต่ไม่ใช่ไม่สน แต่ทรงต้องการให้สาวกเรียนรู้ว่า แม้พระองค์ดูเหมือนเงียบ พระองค์ก็ยังทรงสถิตอยู่ และควบคุมทุกสิ่งอยู่เสมอ
📖 เฉลยธรรมบัญญัติ 31:6 “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือครั่นคร้ามพวกเขาเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเสด็จไปกับท่าน พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งหรือละทิ้งท่านเลย”
“Be strong and courageous. Do not be afraid or terrified because of them, for the Lord your God goes with you; he will never leave you nor forsake you.””
(Deuteronomy 31:6)
“ถ้าคุณรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเงียบ จงจำไว้ว่าครูจะไม่พูดระหว่างการสอบ”
“เมื่อคุณไม่สามารถเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ จงวางใจในพระทัยของพระองค์”
– ชาร์ลส์ สเปอร์เจียน
ดังนั้น เมื่อพระเจ้าดูเหมือนเงียบ จงวางใจว่าพระองค์ยังกระทำการอยู่
4. พระเยซูสามารถ
(Jesus Can Calm Every Storm in Our Lives)
📖 มัทธิว 8:26 “แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้นตรัสสั่งลมและทะเล พายุก็สงบเงียบสนิท”
“He replied, “You of little faith, why are you so afraid?” Then he got up and rebuked the winds and the waves, and it was completely calm.”
(Matthew 8:26)
📖 ฟีลิปปี 4:6-7 “6อย่ากระวนกระวายในเรื่องใดๆ เลย แต่จงทูลขอทุกสิ่งต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐานและการอ้อนวอนพร้อมกับการขอบพระคุณ 7แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”
“Do not be anxious about anything, but in every situation, by prayer and petition, with thanksgiving, present your requests to God. And the peace of God, which transcends all understanding, will guard your hearts and your minds in Christ Jesus.”
(Philippians 4:6-7)
📖 สดุดี 107:29 “พระองค์ทรงกระทำให้พายุสงบลงและคลื่นทะเลก็นิ่ง”
“He stilled the storm to a whisper; the waves of the sea were hushed.”
(Psalms 107:29)
“ไม่มีพายุใดใหญ่เกินไปที่พระเยซูจะสงบ และไม่มีปัญหาใดหนักเกินไปที่พระองค์จะช่วยได้”
– บิลลี่ เกรแฮม
“ความสงบไม่ได้มาจากการไม่มีพายุ แต่มาจากการมีพระเยซูอยู่กับเราในพายุนั้น”
– แม็กซ์ ลูคาโด
จงนำปัญหาของคุณไปให้พระเยซู เพราะพระองค์มีฤทธิ์เหนือทุกพายุ
อะไรคือพระพรท่ามกลางพายุ ?
(What Are the Blessings in the Storm?)
1. พระเจ้าจัดเตรียม
2. พระเจ้าเปิด
3. พระเจ้าจัดเตรียม
4. พระเจ้าทรงจัดเตรียม
5. พระเจ้าเสริม
6. พระเจ้าให้ได้รับการ
เมื่อได้รับพระพรแล้ว เราควรตอบสนองอย่างไร ?
How Should We Respond After Receiving God’s Blessings ?
📖 1 ซามูเอล 7:12 “ซามูเอลจึงนำหินมาก้อนหนึ่ง ตั้งไว้ระหว่างมิสปาห์และเชนและขนานนามว่าเอเบนเอเซอร์ ตามที่เขากล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเหลือเราถึงเพียงนี้””
“Then Samuel took a stone and set it up between Mizpah and Shen. He named it Ebenezer, saying, “Thus far the Lord has helped us.””
(1 Samuel 7:12)
💡 3 วิธีที่เราควรตอบสนอง :
1. ขอบพระคุณพระเจ้า
(Give Thanks )
– ระลึกถึงพระคุณของพระองค์ (Remember His Goodness)
2. เป็นพรให้ผู้อื่น
(Be a Blessing)
– ใช้ประสบการณ์ของเราหนุนใจผู้อื่น (– Encourage Others with Your Testimony)
2 โครินธ์ 1:3-4 – พระเจ้าปลอบโยนเราเพื่อให้เราปลอบโยนผู้อื่น
“3สรรเสริญพระเจ้าและพระบิดาแห่งพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พระบิดาแห่งความเมตตาเอ็นดู และพระเจ้าแห่งการปลอบประโลมใจทั้งปวง 4ผู้ทรงปลอบประโลมใจเราในความทุกข์ร้อนทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถปลอบประโลมใจบรรดาผู้ทุกข์ร้อนในเรื่องใดๆ ด้วยการปลอบประโลมใจซึ่งเราเองได้รับจากพระเจ้า” (2 โครินธ์ 1:3-4)
“Praise be to the God and Father of our Lord Jesus Christ, the Father of compassion and the God of all comfort, who comforts us in all our troubles, so that we can comfort those in any trouble with the comfort we ourselves receive from God.”
(2 Corinthians 1:3-4)
ประสบการณ์ของเราอาจเป็นคำพยานที่ช่วยให้ผู้อื่นมีกำลังใจในการเผชิญพายุของตน
3. เชื่อและวางใจพระเจ้าในพายุครั้งต่อไป
(Trust God in the Next Storm)
– ให้วิกฤติครั้งนี้เสริมสร้างความเชื่อของเรา
มัทธิว 8:26 – พระเยซูตำหนิสาวกที่มีความเชื่อน้อย
ถ้าเราเห็นพระพรของพระเจ้าในพายุครั้งนี้ เราจะมีความเชื่อมากขึ้นในการเผชิญพายุครั้งต่อไป
🔥 บทสรุป: พายุเป็นพระพร ไม่ใช่คำสาป
💡 สรุปเหตุผลที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้พายุเกิดขึ้น :
1. เพื่อให้เราตระหนักว่าเราไม่ได้ควบคุมทุกอย่าง
2. เพื่อให้เราร้องเรียกหาพระเจ้า
3. เพื่อให้เรารู้ว่าพระเยซูอยู่กับเราเสมอ
4. เพื่อให้เราเห็นฤทธิ์อำนาจของพระเยซู
5. เพื่อให้เรามีคำพยานและเติบโตในความเชื่อ
📢 เรียกร้องให้ตอบสนอง :
- คุณกำลังเผชิญพายุอะไรอยู่ ?
- อย่ามองแค่ขนาดของพายุ แต่มองหาพระพรที่ซ่อนอยู่ในพายุ
- ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่ง และให้ประสบการณ์นี้เป็นพรแก่ผู้อื่น !
“ไม่มีพายุใดใหญ่เกินพระเยซู และไม่มีพายุใดจะอยู่ตลอดไป พระองค์จะนำคุณผ่านไปได้!”
คำถาม
1. พายุในชีวิตของคุณคืออะไร ?
คุณคิดว่าทำไมพระเจ้าจึงอนุญาตให้เกิดพายุในชีวิตของคุณ ?
เมื่อได้รับพระพรแล้ว คุณควรตอบสนองอย่างไร ?